บิ๊กโจ๊ก ลงพื้นที่ตรวจโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 สภ.เมืองมหาสารคาม
บิ๊กโจ๊ก ลงพื้นที่ สภ.เมืองมหาสารคาม ที่ได้อันดับที่ 13 ของประเทศ เพื่อตรวจประเมินการดำเนินงานโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 พบความหวาดกลัวภัยของประชาชนต่ออาชญากรรมต่าง ๆ ในพื้นที่นั้นลดลง ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมีมากขึ้น สร้างความใกล้ชิดตำรวจกับประชาชนมีมากขึ้น
ที่ห้องประชุมสารสิน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาตรวจโครงการสมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0 ของสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม โดยมี นายธัญญาวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชจังหวัด มหาสารคาม พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม และภาคีเครือข่ายป้องกันอาชญากรรม (Big 6) ในพื้นที่ตามโครงการ โดยมีตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังการบรรยายสรุป โครงการสมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0 ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองมหาสารคาม ครอบคลุมพื้นที่ 1.2 ตร.กม.ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม ซึ่งมีการประสานงานกับ อบจ.มหาสารคาม เทศบาลเมืองมหาสารคาม ในระบบการติดตั้งกล้อง CCTV ตามถนนเส้นทางต่าง ๆ และชุมชน ร้านสะดวกซื้อร้านทอง และมีการเชื่อมโยงกับกล้องวงจรปิดมาที่ สภ.เมืองมหาสารคาม ส่งสัญญาณภาพไปยังศูนย์ปฏิบัติการและควบคุมสั่งการ (CCOC ) การจราจรและการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ในการรับแจ้งเหตุ นอกจากนี้ยังมีการใช้โดรนในการบินสังเกตการณ์รอบพื้นที่เป็นระยะ และมีสายตรวจรถจักรยานสีแดง คอยขี่ตรวจตราตามชุมชุน โดยได้รับความร่วมมือจากอาสาและผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ช่วยในการสอดส่องและแจ้งเบาะแสยามเมื่อมีเหตุร้าย พร้อมติดตั้งกล่อง แจ้งเหตุฉุกเฉิน SOS BOX ซึ่งเป็นตู้สีเหลืองขนาดความสูง 60 เซนติเมตร ความกว้าง 40 เซนติเมตร ภายในกล่องติดตั้งกล้องวงจรปิดจำนวน 3 ตัว มีไมโครโฟน และลำโพง และกล่องสัญญาณอินเตอร์เน็ท ซึ่งสามารถพูดตอบโต้กันได้ รวมทั้งระบบกล้องวงจรปิด จำนวน2 จุด ที่สี่แยก สภ.เมืองมหาสารคามและ หัวมุมสวนสุขภาพ
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ลงพื้นที่ของจังหวัดมหาสารคาม เพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน ที่ได้กำหนดนำร่องเอาไว้ในพื้นที่ สภ.เมืองมหาสารคาม ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีตำรวจนำร่อง ได้อันดับที่ 13 สถานี ของประเทศไทย ในเรื่องของโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซนเป็นการนำเทคโนโลยีทั้งหมดเข้ามาใช้ เพื่อที่จะให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชนในชีวิตและทรัพย์สิน จากการดำเนินการโครงการนี้จะเห็นได้ว่า ความหวาดกลัวภัยของประชาชนต่ออาชญากรรมต่าง ๆ ในพื้นที่นั้นลดลง ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมามากขึ้น สร้างความใกล้ชิดตำรวจกับประชาชนมีมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ข้อมูลข่าวสารที่ตำรวจจะได้รับมีมากขึ้น พื้นที่เสี่ยงบุคคลกลุ่มเสี่ยง บุคคลพ้นโทษบุคคลที่เข้ามาในชุมชนแล้วมีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่าน่าจะก่อเหตุรวมทั้งยาเสพติดต่าง ๆ ก็จะไม่สามารถอยู่ในชุมชนได้ เพราะฉะนั้นในโครงการเหล่านี้สิ่งสำคัญคือเมื่อไหร่ที่ตำรวจทำงานและประชาชนเขาจะรู้เอง