เดินหน้าขับเคลื่อน มหาสารคามเกษตรปลอดการเผา Zero Burn “มุ่งสร้างมหาสารคาม มหานครปลอดการเผา” แก้วิกฤตฝุ่น PM 2.5
ที่อ่างเก็บน้ำบ้านโรงบ่ม ต.โคกก่อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงานสาธิตทดแทนการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรและโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร สร้างเครือข่ายปลอดการเผารณรงค์และสาธิตการเกี่ยวข้าว ไถกลบ งดเผาฟาง โดยจังหวัดมหาสารคามร่วมกับบริษัทสยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จํากัด จัดขึ้นภายใต้โครงการของจังหวัดมหาสารคามเกษตรปลอดการเผา Zero Burn “มุ่งสร้างมหาสารคาม มหานครปลอดการเผา” โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการนำร่องการสาธิตเทคโนโลยี การจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรทดแทนการเผา จัดทำแปลงสาธิตการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อทดแทนการเผา โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการ จัดการเศษวัสดุการเกษตรทดแทนการเผาที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ และเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนเกษตรเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตร
นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จังหวัดมหาสารคาม ได้ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนเกษตรเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตรสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เกษตร เพื่อสร้างเป็นวิทยากรด้านการทำการเกษตรปลอดการเผา รวมทั้งสร้างชุมชนเกษตรปลอดการเผาต้นแบบ ตลอดจนได้มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีในพื้นที่ทั้งภาครัฐและเอกชน จัดงานรณรงค์ในท้องถิ่น ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ช่วงวิกฤตหมอกควันภาคเหนือ รวมถึงการจัดทำแปลงนำร่องสาธิตเทคโนโลยีการจัดการเศษวัสดุทดแทนการเผา จึงมั่นใจว่าเกษตรกรจะมีความเข้าใจและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการเผาในพื้นที่เกษตรและสามารถนำความรู้นี้ถ่ายทอดไปสู่ประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ จังหวัดมหาสารคามร่วมกับบริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมดำเนินงานเดินหน้ารณรงค์ให้เกษตรกรและประชาชนร่วมกันป้องกันและแก้ไขวิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) โดยให้ความสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อรักษาคุณภาพอากาศให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เร่งสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรตระหนักถึงผลกระทบจากการเผาในเวทีถ่ายทอดความรู้ต่างๆ รวมทั้งให้ความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ในการแก้ไขและป้องกันปัญหาหมอกควันที่เกิดจากการเผาและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ตลอดจนการสนับสนุนมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร ได้แก่ การส่งเสริมให้เกษตรกร เตรียมพื้นที่เพาะปลูก โดยวิธีการไถกลบตอซังทดแทนการเผา การส่งเสริมการนำเศษวัสดุทางการเกษตรมาแปรสภาพให้เกิดประโยชน์ เช่น การทำปุ๋ยหมัก การปลูกเห็ดฟาง การผลิต อาหารสัตว์ การทำถ่านอัดแท่ง หรือ ของประดับ เป็นต้น นอกจากนี้เมื่อเกษตรกรหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรแล้วจะได้ 5 ดี คือ อากาศดี สุขภาพดี เศรษฐกิจดี สิ่งแวดล้อมดี และยังได้ปุ๋ยที่ดีจากธรรมชาติ มุ่งเน้นให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งมีคุณภาพชีวิตที่ดี ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และมีรายได้ที่มั่นคง